เรื่องราวของนางฟ้า....ติดดิน: October 2006

กลับบ้านไปคราวนี้ไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ทเลย
เพราะย้ายไปที่บ้านใหม่ใกล้เซียร์รังสิต
ติดโทรศัพท์ของ True ไม่ได้ ดังนั้นจึงอดอินเตอร์เน็ทไปโดยปริยาย
เหตุผลง่ายๆคือ ทางหมู่บ้านมีสัญญากับทาง TOT ว่าไม่ให้ True เข้ามาติดโทรศัพท์
ใครอยากมีโทรศัพท์ ต้องใช้ TOT ผูกขาดเท่านั้น
และถ้าจะติดโทรศัพท์ แม้ว่าจะเป็นของ TOT ก็ต้องรอไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์
อย่างช้า ไม่รู้เมื่อไหร่ เอาเป็นว่าจนกว่าจะมีพนักงานมาติดให้แล้วกัน
ก็เลยได้แต่เหนื่อยใจปนเซ็ง
บ้านใหม่อะไรๆก็ยังไม่เรียบร้อย
ตู้เย็นยังเสียบไม่ได้ ผ้าม่าน มุ้งลวด เหล็กดัด ยังเข้ามาติดไม่เสร็จ
ก็ได้แต่อยู่ไปก่อน ทนไปก่อน เดี๋ยวอะไรคงดีขึ้น

กลับมาบินคราวนี้เป็นช่วงเทศกาลกินเจพอดี
เลยตั้งจิตอธิฐาน ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม ขอให้สมความปรารถนาเรื่องงาน
ขอให้ได้งานใหม่ที่ตั้งใจหวังเอาไว้ ขอให้ชีวิตดีขึ้นสักทีเถอะ
ทั้งเรื่อง งาน เรื่องเงิน เรื่องพ่อ และหลายๆเรื่องที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต
ท้ายสุด คนเราก็ต้องหวังศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ

คราวนี้โชคดี ได้บินไปฮ่องกงช่วงเทศกาลกินเจพอดี
ก็เลยเข้าเมืองไปนมัสการรูปเคารพของท่าน
ใครสนิทกับเราคงพอรู้ว่า ถ้าเรามาบินไฟลท์ฮ่องกงเมื่อไหร่
ไม่เคยเข้าเมืองเลยสักครั้งเดียว
เนื่องจากไกล แพง แถมเวลา lay-over ก็สั้น แค่ 12 ชั่วโมง
จะเข้าเมืองก็ต้องฟันฝ่าความลำบากพอดู
แต่คราวนี้ ตั้งใจจริงจัง จะไปนมัสการเพื่อขอพรท่านให้สำเร็จจนได้

มาดูรูปไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
คราวนี้ได้ห้องแบบหรูหราไฮโซ เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ท่าทางห้องจะดูดีกว่าที่เคยพักคราวที่แล้วๆมา

ห้องพักดูทันสมัย โมเดิร์นขึ้นเยอะเลย

นั่งรถไฟ Airport Express เข้าเมือง
ราคาตั๋ว ไป-กลับภายใน 1 วัน ราคา HKD 100 $
ภายในรถไฟ สวยงามทันสมัยอย่างที่เห็น มีจอทีวีให้ตรงที่นั่งด้วย
เข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

ถึงตัวเมืองแล้ว.......

เพิ่งเคยขึ้นรถ 2 ชั้น เลยถ่ายรูปไว้สักหน่อย
มันไม่สูง ไม่น่ากลัวแบบที่เคยกลัวหรอกนะ นั่งสบายดีแท้

ทางขึ้นชั้นสอง ของรถเมล์
ค่าตั๋วตลอดสายประมาณ HKD 8.40 $ นับว่าแพงเอาการ เมื่อเทียบกับบ้านเรา

บนรถมีทีวีฉายข่าวและโฆษณาต่างๆด้วย

รูปนี้ถ่ายบน Airport Express เพิ่งลงจากเครื่องมา เลยโทรมซะ !!!

ตึกรามบ้านช่องใหญ่โตหรูหราในเมืองฮ่องกง
เมืองนี้มีตึกสูงระฟ้าเยอะจริงๆ

นั่งรถจะไป Repulse Bay เพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมองค์ที่ชาวไทยนิยมมาสักการะบูชา
แต่ว่าไม่รู้รายระเอียดอะไร ก็เลยนั่งรถเลยมาซะงั้น
กว่าจะรู้ตัว ก็นั่งรถมาจนถึง Stanley หรือย่านซื้อขายในเกาะฮ่องกง
ถามทางคนบนรถ เขาก็ใจดี พาไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ที่อยู่แถวบริเวณตลาด Stanley
แอบได้ยินคนฮ่องกงสวดมนต์กัน ออกเสียงว่านะโม นะโม ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นคนฮ่องกงที่ว่า ยังใจดี พาเรานั่งรถกลับมาที่วัดเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay ด้วย
นี่แหละค่ะ องค์เจ้าแม่กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ที่ Repulse Bay

ภาพถ่ายจากมุมใกล้ๆ
คนที่ฮ่องกงเขาเรียกเจ้าแม่กวนอิมว่า "กุนยัม" ออกเสียงต่างจากทางบ้านเราเล็กน้อย

คนที่นี่นิยมไหว้เจ้าแม่กวนอิมโดยจุดธูป 3 ดอก และนิยมนำสร้อยไข่มุกสีขาว และสีชมพูมาถวาย
เราขอพรจากท่านไว้ว่าถ้าสิ่งที่อธิฐานสำเร็จ จะกลับมาไหว้ พร้อมด้วยพวงมาลัยดอกไม้สดแบบไทยๆ
รวมทั้งสร้อยไข่มุกเส้นยาวๆ แบบที่คนอื่นนิยมนำมาถวาย
พร้อมทั้งจะขอกินมังสวิรัติเป็นเวลา 1 เดือนด้วย

ด้านซ้ายมือขององค์เจ้าแม่กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานขององค์ TIN-HAU อ่านออกเสียงว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ชาวฮ่องกงถือว่าท่านเป็นจักรพรรดินีแห่งสวรรค์ มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองทุกชีวิตในท้องทะเล รวมไปถึงเหล่านักเดินเรือและชาวประมงด้วย

องค์พระโพธิสัตว์ หรือเจ้าแม่กวนอิมในอีกปางหนึ่ง

เทพผู้คุ้มครองต่างๆของชาวจีน

ได้เจอพี่คนไทย 3 คนด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
พี่ๆเขามานมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิมเช่นกัน

รูปสุดท้าย คุณจอนนี่คนนี้แหละค่ะ ที่ใจดีอุตส่าห์พาเราดั้นด้นมาถึงวัดทั้งๆที่อากาศร้อนแสนร้อน
แถมยังออกค่าธูปเทียนบูชาในวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ Stanley ให้ด้วย
เราตอบแทนด้วยการเลี้ยวโค้กเขาไปกระป๋องหนึ่ง
ก่อนจากกัน ได้มีการแลกอีเมล และที่อยู่ไว้ให้
ตั้งใจว่ากลับเมืองไทย จะซื้อของฝากดีๆ ส่งไปรษณีย์กลับไปให้เขาด้วย
แต่คงไม่ได้ติดต่ออะไรกันมากมายอีก เพราะเราเดินทางบ่อยๆ
ไปฮ่องกงครั้งต่อไปก็คงขี้เกียจเข้าเมือง
อีกอย่าง กลัวเขามาจีบ (ว่ากันตรงๆนี่แหละ) บอกเขาไปแล้วว่ามีแฟนแล้ว
และไม่ค่อยอยากยุ่งกับคนอื่นเท่าไหร่

กลับมาจากฮ่องกงตอนเช้า ด้วยความง่วงขนาดหนัก ที่ไม่ได้นอนก่อนไปบิน
เลยทำให้ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนรถบัสของสายการบิน
โชคดีมากที่คนขับรถเก็บไว้ให้
พอไปถามเรื่องโทรศัพท์ที่ออฟฟิศของคนขับรถบัสเขาก็หยิบโทรศัพท์ให้เรา
ดีใจมาก โค้งแล้ว โค้งอีก ด้วยความขอบคุณ

ที่จริงวันนี้จะต้องพาจุ้มเข้าไปในเมือง
แต่ด้วยความที่เหนื่อยและง่วง เลยต้องขอโทษจุ้มที่ผิดนัด พาเข้าเมืองไม่ได้
ตอนเย็นเลยเพิ่งรู้ว่าวังเคียงบ็อคกุงที่จะพาจุ้มไป ปิดวันนี้พอดี
จุ้มเลยโชคดี ไม่ต้องเข้าเมืองไปดูวังที่ไม่เปิดให้เข้าชม

ไดเอ็ทไดอารี่วันนี้ ลดน้ำหนักเหลือ 49 กิโลกรัมแล้ว
ขออีกสักสองสามกิโลก็แล้วกันนะ แล้วจะหยุดไดอดอย่างสุดๆแบบนี้
ช่วงนี้ดีใจที่มีแต่คนทักเรื่องผอมลง ไดอดแบบนี้ ได้ผลเร็วดีแฮะ

เพลงวันนี้ให้หมาย้วยนะ
คิดถึงหมาย้วยมากๆเลย

PS. วันนี้ได้รูปจากที่คุณจอนนี่เขาส่งมาให้
เลยได้เอารูปมาลงเพิ่มอีก 2 รูป

หมาย้วยอย่าเพิ่งงอนน้า ^_^'

ย้ายของออกจาก Venezia เข้าบ้านใหม่ตั้งแต่วันที่ 2
แต่เช็คเอาท์จาก Venezia จริงๆวันที่ 4 แน่ะ
ตอนนี้อะไรๆยังไม่เรียบร้อยเลย
เตียง ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย ยังไม่มี
เวลานอน อาศัยว่านอนแบบเสื่อผืน หมอนใบไปก่อน
บ้านยังมีอะไรต้องแก้อีกเยอะ
ยิ่งอยู่ ยิ่งเจอข้อบกพร่องของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
โครงการที่ซื้อน่ะ มันดี แต่บริษัทรับไปทำ มันห่วย
ต้องเรียกช่างมาแก้ทีละจุดๆ

ยังไม่ทันย้ายเข้าอยู่
โอ้ แม่เจ้า ! เจอค่าไฟไป 98 บาท ค่าน้ำอีก 2,000 ลิตร
แมวที่ไหนมาใช้เนี่ย
โครงการก็เลยโดนแม่เราโวยไป ข้อหาให้ใครเข้ามาใช้น้ำใช้ไฟเราสุ่มสี่สุ่มห้า
วันแรก นอนอยู่ดีๆ แอร์ปิดซะงั้น
วิ่งลงมาดู ใครไม่รู้ยกสะพานไฟลงให้เรา
จะว่าหมาก็คงไม่ใช่ เพราะสะพานไฟสูง
ถ้าไม่ใช่หมาย้วย หมาที่ไหนจะปีนถึง

วันที่สองซักผ้าอยู่ดีๆ น้ำหยุดไหล
ต้องวิ่งลงมาจากชั้นสามเพื่อยกเสียบปลั๊กปั๊มน้ำ
เพราะมีแมวที่ไหนไม่รู้ถอดปั๊มน้ำให้เรา แถมเก็บที่เดิมให้เสร็จ
มันน่า..........

เอาเถอะ ค่อยๆแก้กันไป ยังไงก็บ้านเราอะนะ
เฮ้อ !

เอารูปสมัยยังไม่เรียบร้อยดีมาลง
ตอนนี้เริ่มมีอะไรมากกว่าเดิมแล้ว