Tuesday, July 29, 2008

เสียดาย...ไม่เท่าเสียใจ T_T

ตามนั้นเรย ฮือๆๆๆ

เฝ้านับวันรอแล้วรอเล่า ที่จะได้ไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อนๆเอเชียน่า
ถ้าใครที่รู้จักเรามานาน จะพอรู้อยู่เหมือนกันว่าเราเองผูกพันกับเพื่อนๆที่เอเชียน่าไม่น้อย
เพราะเราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันที่เกาหลีมานานเต็มที
ตอนนี้เพื่อนๆทั้งแก๊งเป็นแอร์กันมาคนละครึ่งทศวรรษเห็นจะได้
รู้ได้จากการที่ทุกคนต้องมาต่ออายุ US VISA พร้อมๆกัน
เพื่อนๆเลยได้โอกาสรวมตัวกันจัดทริปไปภูเก็ตซะเลย ส่วนคนอื่นๆที่ทนพิษ้กาหลีไม่ไหว กลับมาตายรังที่เมืองไทยก่อนก็เห็นดีเห็นงาม ตามมาสมทบกันเกือบครบทีม

ทริปนี้แพงโหดจริงๆ เก็บตังค์กันคนละหมื่นนึงแน่ะ o_0
อุแม่เจ้า !!! พวกแกเที่ยวภูเก็ต หรือเที่ยวสิงคโปร์กันเนี่ย

ไม่เป็นไร นานๆไปเที่ยวกันที เราก็โอเคอะนะ เตรียมตัวไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ขอใช้สิทธิตั๋วลด 90% แล้วกัน เพราะเราทำตั๋วคอนเฟิร์มไม่ทัน กว่าจะรู้ตารางบินเดือนใหม่ก็ใกล้วันเดินทางแล้ว
ต้องไป Stand by ตั๋วที่เคาท์เตอร์

ถึงเวลาจริงๆ กลายเป็นว่าสายการบินพันธมิตรทั้งหลาย ทั้งนกแอร์ และวันทูโก เกิดหยุดบินกันซะอย่างงั้น สายการบินโลว์คอสท์เพียงสายการบินเดียวที่หลงเหลืออยู่ อย่างแอร์เอเชีย เลยผู้โดยสารท่วมท้น ล้นจนไม่มีที่ให้เราขึ้น

รออยู่ตั้งแต่เจ็ดโมง บอกให้เพื่อนๆล่วงหน้าไปก่อน รู้ว่ายังไงๆก็คงได้ไปอยู่แล้ว

สมความคาดหมายได้ไปสมใจนึก แต่ไม่ได้โหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง เพราะกว่าจะได้ไป ไฟลท์มันก็ดีเลย์มาแล้วตั้งสี่สิบนาที วิ่งหน้าตั้งมาถึงเกท (จำได้แม่นยำ เกท B4) ดันมาติดตรงเอ็กซเรย์ เพราะทั้งครีม น้ำหอม เครื่องสำอาง น้ำยาล้างเลนส์และอื่นๆอีกมากมายล้วนเป็นของเหลวที่หอบขึ้นเครื่องไม่ได้ทั้งสิ้น
ร้ายไปกว่านั้น พนักงานการท่าฯยังไม่ให้เราฝากกราวด์ไว้อีก จะฝากเพื่อนลูกเรือถือขึ้นก็ไม่ยอม เค้าบอกว่ามีวิธีคือให้เราทิ้ง ห้ามฝากใคร หรือไม่ก็ต้องไม่ไป

อืม...ของเหลวทั้งหลายในกระเป๋ารวมๆกันก้อหลายพันอยู่ เลยตัดสินใจ เออ ไม่ไปก็ได้วะ
แต่จะให้ทิ้งอยู่ที่เอ็กซ์เรย์ กรูไม่ทิ้งเว้ยยยยย !!!

ตัดใจอ๊อฟโหลดตัวเอง ไม่ปงไม่ไปมันแล้ว
จะให้รอไฟลท์สี่โมงเย็น ไม่รอหรอก ฝันไปเหอะ

พอดีกับพี่ Flight Operation โทรมาแจ้งให้เข้าไปถ่ายรูปที่บริษัทด้วย
ถึงได้ไปเที่ยว ก็ต้องรีบกลับมาถ่ายรูป มาประชุมลูกเรือ และทำอะไรอีกสารพัด

โอกาสหน้าแล้วกัน เพื่อนๆเอ๊ยย

เสียดายสุดๆที่ไม่ได้ไปทริปนี้ ทั้งๆที่วางแผนเอาไว้อย่างดิบดี

แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ
พอกลับมาบ้านแล้วเพิ่งนึกได้ว่าจริงๆแล้วอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆมากแค่ไหน

เสียใจจัง T_T

Monday, July 14, 2008

คิดให้ดี ก่อนจะสมัครแอร์

บังเอิญแว้บอ่านบอร์ดที่เคยเล่นสมัยที่ทำตัวเป็นกูรูด้านการสมัครแอร์
เห็นไอ้ที่เคยเขียนเอาไว้ เลยหอบกลับมาแปะไว้ที่นี่
เป็นที่ระลึก

...

อ่านกระทู้อยู่นาน และเห็นน้องๆอยากสมัครแอร์กันเยอะมาก เลยมีอะไรบางอย่างอยากจะเตือนน้องๆนิดนึง ก่อนคิดจะไปสมัครแอร์นะคะ

เราเองก็ทำงานให้สายการบินแห่งหนึ่งอยู่ ไม่ใช่แจลนะคะ แต่แพทเทิร์นการบินคล้ายกันเลย คือต้องบินประมาณ 3-14 วัน เคยได้แพทเทิร์นยาวสุดตั้ง 16 วัน นานจนลืมหน้าพ่อแม่ไปเลย ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นแอร์นอกจากจะได้ทำงานที่สนุก ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ได้สตางค์เยอะ ที่สำคัญ ได้เที่ยว เป็นกำไรชีวิต โอ้...มันช่างดูดีมีชาติตระเราลเสียนี่กระไร แต่ตอนนี้ หลังจากที่ได้ทำงานมาสักระยะหนึ่ง เลยเริ่มเข้าใจการทำงานค่ะ ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ข้อดี ขอไม่พูดถึงนะคะ มีพี่ๆ และเพื่อนๆหลายคนเล่าในบอร์ดนี้กันเยอะแล้ว น้องๆที่ตั้งใจจะสมัครแอร์ ก็คงพอจะทราบ ถึงอยากร่วมวงการ

แต่ข้อเสียนี่สิคะ

อย่างแรก ถ้าคิดว่าเป็นแอร์แล้วจะได้เที่ยว ได้ไปต่างประเทศ ได้เปิดหูเปิดตา ขอบอกว่าคิดถูกแค่ครึ่งเดียวค่ะ อย่าลืมว่าเวลาเราไปบิน กว่าจะไปถึงที่หมายเราก็เหนื่อยโทรมแล้ว เคยไหมคะ รู้สึกยังกับเดินทน บินข้ามทวีปไปอเมริกา หรืออังกฤษ โอ้โห.....เดินไปตลอดทางเลยค่ะ สิบชั่วโมง พักแค่เวลาrest จริงๆ หัวถึงหมอน แทบสลบคา crew bunk ได้เวลาตื่นมาก็ต้องทำงานต่อ เหนื่อยขนาดนี้ กว่าจะไปถึงที่หมาย เราก็สลบแล้ว มีแรงตื่นขึ้นมาออกไปหาอะไรกินกันตายก็เก่งมากแล้วค่ะ อ๊ะๆ อย่าได้คิดว่าพรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นไปเที่ยวได้ Lay -over ที่เคยได้ส่วนมากก็ 24 ชั่วโมงค่ะ ถ้าบินไกลหน่อยก็สองวัน เคยมีหนนึงได้ซะสี่วัน โอ้โห ! ตีปีกพั่บๆเลย แต่ส่วนมาก ก้อ.....นอน เดินดูอะไรนิดหน่อย แล้วก็บินกลับค่ะ ได้จะได้เที่ยวเป็นชิ้นเป็นอัน อย่าหวังดีกว่า ขอ VAC ไปเที่ยวสบายกว่าเยอะค่ะ

เรื่องที่สอง ได้พบปะผู้คนหลากหลาย อันนี้ก็จะได้พบปะผู้คนมากมายจริงๆค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าผู้คนบนโลกจะเดินทางดดยเครื่องบินกันได้เยอะขนาดนี้ ทุกวันนี้ที่บินอยู่ เต็มเกือบตลอด ไม่รู้ฝ่ายขายเขาขายตั๋วยังไง แอร์อย่างเราก็เลยได้พบผู้คนหลายหลายมากๆ ขอย้ำ! มากจริงๆค่ะ มีทั้งแบบดีๆ (ซึ่งจะขอข้ามไป ) แบบแปลกมาก แปลกน้อย และแบบต้องจำไว้จนตายจากอาชีพแอร์ไปเลย ถึงยังไงก็ขอคอนเฟิร์มนะคะว่าผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นน่ารักมากจริงๆ สงบเงี่ยม เรียบร้อย ขี้เกรงใจ และสะอาดสะอ้าน ผู้โดยสารที่ขึ้นชื่อมากมายก็เช่น แขก โชคดีที่ไม่ได้เจอบ่อย แต่เจอกันทีก็ลืมไม่ลง เราทำงานกับความต้องการของคน ดังนั้นเราต้องพยายามให้เขาอยู่ร่วมกันในเครื่องบินลำใหญ่ๆนี้ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ยากมากค่ะขอบอก ผู้โดยสารเกเรมีไม่เว้นแต่ละวัน เจอบ่อยๆเข้า บางทีน้องๆอาจจะไม่อยากเจอผู้คนไปเลยก็ได้ค่ะ

เรื่องที่สาม ได้เงินเยอะ ถูกแล้วค่ะ เราต้องได้เงินเยอะเพื่อกิน ใช้ในประเทศที่ค่าครองชีพสูงกว่าบ้านเรา เทียบกันแล้ว รายได้เราเยอะกว่าอาชีพอื่น แต่รายจ่ายเราก็เยอะนะคะ บินๆไปเงินเก็บอาจจะไม่เหลือเลยก็ได้ (เพื่อนๆเรามีเยอะค่ะ ไม่เก็บเงิน กว่าจะรู้ตัวก็.....) มีรายได้เยอะ เราก็ควรจะเก็บไว้บ้าง แต่ก็ไม่เก็บจนต้องพึ่งมาม่าตลอดนะคะ ร่ายกายเราเสลื่อมสภาพง่ายกว่าผู้คนบนพื้นดินค่ะ Ypu are what you eat ดังนั้นกินเข้าไปเพื่อให้มีร่ายกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เตรียมรบกับผู้โดยสารได้ตลอดไฟลท์นะคะ กลับมาที่เรื่องเงิน ถ้ารู้จักเก็บดีๆ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถได้เร็วแน่ค่ะ แต่...ย้ำนะคะ มีน้อยคนค่ะ ที่จะเก็บได้หรูขนาดนั้น ส่วนมาก เท่าที่เห็น หมดไปกับการกิน เที่ยว ช้อปปิ้งหรรษาค่ะ เอ....หรือแอร์สายการบินที่พี่ทำอยู่เขาจะช้อปปิ้งกันเก่งเกินมารตฐานแอร์ไทยนะ

เรื่องที่สี่ สุขภาพที่รักยิ่งของเรา สืบเนื่องมาจากย่อหน้าบน เราต้องใช้ร่างกายทำงานค่ะ เนื่องจากอาชีพนี้ กิน นอน ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ดังนั้นอาชีพแบบนี้ต้องดูแลตัวเองมากกกกกกกกกกว่าคนอื่นๆ เพื่อนที่บินด้วยกันตอนนี้โดนโรคภัยรุมเร้ากันหลายคนเลยค่ะ เบาะๆก็โรคกระเพาะ กินอาหารไม่เป็นเวลา บางคนก็กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ต้องไปทำกายภาพบำบัด (ขนาดตรวจกระดูกสันหลังก่อนมาเป็นแอร์นะเนี่ย ยังเสี่อมลงได้ขนาดนี้ ) ผิวพรรณที่เคยสดใสก็จะร่วงโรย แต่ก่อนหน้าใสกิ๊ง พอมาเป็นแอร์ก็จะมีสิวฝ้าถามหาบ่อยกว่าเดิม น้ำหนักที่เคยผอม กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน พอมาบินก็จะน้ำหนักขึ้นพรวดพราดได้ไม่รู้ตัว เพราะอาหารบนเครื่องบิน (entree) มันมีไขมันสูง แคลอรี่สูงมาก เผื่อเครื่องบินตก เราจะได้มีพลังงานสะสม ผู้ดดยสารนานๆกินที ไม่เป็นไร แต่แอร์สิคะ กินกันบ่อยๆ สมบูรณ์เหลือเกิน ต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อรักษารูปร่างให้คงที่ ไม่มีพุงออก ไม่งั้นใส่ยูนิฟอร์มไม่งาม

เรื่องที่ห้า คนที่รักสวยรักงามอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้แต่งตัวดูแลตัวเอง อาจจะเครียดนิดนึง เรื่องที่เราต้องwell groom ตลอดเวลา สวยก่อนออกจากบ้านน่ะไม่ยาก แต่พอบินไปสิบกว่าชั่วโมง ลงเดินที่สนามบินปลายทาง จะเก็บความงามไว้ แสนจะยากเย็นนะคะ ส่วนมากก็โทรม ง่วง เดินกันกระปลกกระเปลี้ย ไม่ได้เลยนะคะ ยังไงก็ต้องดูดี ดูสง่า เพราะเป็นภาพที่ดีของสายการบินเรา พูดง่าย แต่ทำยากมากๆค่ะ

เรื่องที่หก ใครที่ติดแม่ ติดแฟน ติดเพื่อน หรือติดน้องหมาที่บ้าน ทำใจไว้เลยค่ะ ว่าเวลาอันมีค่าจะหายไปหมด เพราะเวลาเราบิน เราก็ต้องไปอยู่ต่างประเทศตลอด ไม่ค่อยได้เจอกัน เจอมาเยอะค่ะ ติดแฟนมากๆ ค่าโทรศัพท์เดือนนึงกระจัดกระจายหายไปหมด สังเวยความคิดถึง ส่วนมากจะแพ้ภัยตัวเอง อยู่ได้ไม่นานค่ะ มีเพื่อนคนนึงไปสมัครสายการบินในประเทศ พอเขาได้ เขาดีใจมากๆ รีบออกเลย เพราะคิดถึงบ้านมากมาย ไม่อยากบินไปไหนนานๆอีกแล้ว

อยากให้น้องๆคิดดูให้ดี ว่ารักอาชีพนี้แค่ไหน ตอบตัวเองให้ได้ มีเพื่อนในรุ่นหลายคนเหลือเกินค่ะที่เป็นแอร์ได้ไม่นานก็แพ้ภัยรอบด้าน ต้องลาจากอาชีพนี้ไป บางคนถึงกับสาปส่ง ไม่ขอเดินเข้าสู่สายการบินไหนอีกตลอดชีวิต ส่วนมากก็ไปทำงานอื่น หรือไปเรียนต่อเลย เสียดายแทนค่ะ แต่ถ้ายังยืนยันรักอาชีพนี้ ก็ขอยินดีต้อนรับน้องๆที่จะมาเป็นแอร์ในรุ่นต่อไปนะคะ