Saturday, September 04, 2010

ไปสอบ IELTS กันค่ะ

วันนี้ขอเล่าเรื่องการสอบ IELTS ก่อนที่เราจะลืมนะคะ

มีน้องๆบางคนถามมาเยอะเหมือนกันเรื่องการสอบวัดระดับภาษาเพื่อจะมาเรียนต่อที่เกาหลี สำหรับเราเอง เราบอกได้เลยค่ะ ว่าไม่ได้สอบวัดระดับภาษาเกาหลีมา เพราะคิดอยู่แล้วว่าถึงสอบไป ก็คงไปไม่พ้นขั้นต้น หรือขั้นกลาง เรารู้ภาษาเกาหลีแบบฟังเข้าใจ อ่านพอรู้เรื่อง ปฏิบัติตามได้แต่พูดออกมาไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นผลจากการทำงานกับคนเกาหลีเสียนาน เวลาเราอยู่บนเครื่อง เรารับคำสั่งจากรุ่นพี่และผู้โดยส่ารซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเราจึงฟังเข้าใจแต่พูดออกมาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้ ครูเกาหลีเคยบอกเรามาครั้งนึงแล้วว่า...เป็นเคสที่แปลก !!!

กลับมาเรื่องสอบภาษาต่อนะคะ
การเรียนต่อปริญญาโท ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษาไหน ทั้งในเมืองไทยและที่ต่างประเทศ เขาจะขอให้คุณแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษค่ะ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าคุณจะสามารถไปอ่านtextอ่าน journal หรือเขียนตำรับตำราเป็นวิชาการในระดับนานาชาติออกมาได้ดี บางที่เช่นที่จุฬาหรือธรรมศาสตร์เขาจะมีจัดสอบวัดระดับของเขาเอง แต่บางที่ในเมืองไทย และถ้าจะสมัครเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ คุณจะต้องสอบ IELTS หรือ TOEFLเท่านั้นค่ะ

เคยมีคนถามว่าการสอบสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง
เท่าที่เรารู้คร่าวๆ การสอบเพื่อไปเรียนที่อเมริกา ส่วนใหญ่เขาขอผล TOEFLในขณะที่ประเทศทางยุโรป อังกฤษและเครือจักรภพทั้งหลาย เขาเน้นดูผล IELTSเป็นสำคัญ

เคยเล่าไปครั้งหนึ่ง เมื่อนานมาแล้วว่าทำไมเราถึงเลือกสอบ IELTS

ที่เมืองไทย เราสามารถเลือกสอบ IELTS ได้กับหน่วยงานสองแห่งค่ะ

ที่แรกคือ British Council โทรสอบถามได้ตามนี้ค่ะ 02-657-5678
อีกที่คือ IDP Education สอบถามรายละเอียดได้ตามเบอร์นี้ 02- 638-3111

ก่อนสอบควรเตรียมตัวให้ดีนะคะ เพราะค่าสอบแพง จะกลับมาสอบบ่อยๆก็ไม่ได้ แถมคะแนนการสอบมันจะเฉลี่ยไปเรื่อยๆซะด้วยสิ

การสอบ IELTSมี 2 แบบนะคะคือแบบ General ซึ่งจะง่ายกว่า และเน้นให้เอาไปใช้สมัครวีซ่า หรือสมัครเข้าทำงานค่ะ แต่ที่เราจะสอบเพื่อเอาไปเรียนต่อนั้น เขาบังคับเลยว่าต้องสอบแบบ Academic ซึ่งจะยากกว่านิดหน่อย และเน้นการฟัง พูด อ่าน เขียนเชิงวิชาการมากกว่าค่ะ

เนื่องจากค่าสอบแพงโหด ดังนั้นเมื่อถึงวันสอบ เราไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลยค่ะ นอกจากบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตเท่านั้น ดินสอยางลบเขามีให้พร้อม เอาสมองที่แจ่มใสเข้าไปสอบก็พอ
(ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นบินดึกลงมา กลับบ้านตีสี่ โฮๆๆๆ)

การสอบฟัง เขาจะมีสถานการณ์มาให้ ทั้งแบบบทสนทนาง่ายๆ และแบบเป็นspeechยาวๆ เราสามารถเขียนโน้ตเอาไว้ได้ค่ะ ฟังเสร็จเขาจะให้เวลาเราตอบในกระดาษคำตอบ

การอ่านและแกรมม่า ไม่มีอะไรมากนะคะ แค่การอ่านจับใจความเฉยๆ อันนี้เน้นศัพท์ค่ะ ใครมีคลังคำอยู่ในตัวเยอะก็โชคดีไป ข้อสอบไม่ยาว แต่เยอะ อย่าลืมแบ่งเวลาดีๆ

การเขียน ใส่ส่วนของการสอบแบบ Academic จะมีงานเขียนมาให้เราเขียนสองแบบค่ะ แบบแรกคืออ่านกราฟ เขาจะมีกราฟ (แบบเส้น กราฟวงกลม กราฟแบบแท่ง ตารางฯลฯ อันนี้แล้วแต่ดวง) ให้เราดูแผนภูมิและเขียนอธิบาย แนะนำว่าจะเขียนให้ได้คะแนนดีๆ เราต้องสามารถเปรียบเทียบกราฟได้ดี บอกความเหมือนความต่าง และบอกแนวโน้มของกราฟได้ด้วย ส่วนอีกหัวข้อนึงจะมี Statementมาให้เราเขียน ว่าเราเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยอย่างไร วันนั้นที่เราไปสอบ ถ้าจำไม่ผิดเขาให้หัวข้อมาว่า "โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในชนบทที่ที่คนมักจะใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร" อันนี้เราต้องอธิบาย ให้เหตุผล ยกตัวอย่างไปว่าทำไม (คล้ายๆกับการสอบ TOEFL ค่ะ อันนี้)

การสอบพูด จะสอบในตอนบ่าย เขาจะมีเวลามาให้ ว่าเราต้องมารอสอบตั้งแต่กี่โมงเป็นต้นไป กรรมการจะอัดเทปบันทึกสิ่งที่เราพูดทั้งหมด การสอบพูดจะแบ่งเป็น 3 part คือการแนะนำตัวเอง และพูดถึงสิ่งใกล้ๆตัว ส่วนที่สองคือเขาจะกำหนดหัวข้อมาให้เราพูด ให้เวลาเราเตรียมตัว 2 นาที แล้วก็พูดเป็น speechออกมา และส่วนสุดท้ายของการสอบ กรรมการจะถก หรืออภิปรายกับประเด็นที่เราพูดไปแล้ว

รอไม่นาน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก้ได้ผลสอบแล้วค่ะ

อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมมาเรียนต่อที่เกาหลี แล้วถึงต้องส่งผลคะแนนการสอบภาษาอังกฤษด้วย
ขอแนะนำว่าทางสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ให้น้ำหนักคะแนนภาษาอังกฤษมากพอสมควรนะคะ ถ้าคุณไม่ได้เก่งภาษาเกาหลีระดับ 4-5 ขึ้นไป หรือเขียนใบสมัคร เขียน essayต่างๆเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด ขอแนะนำว่าส่งใบสมัครเป็นภาษาอังกฤษและแนบผลสอบ IELTS หรือ TOEFL จะดีกว่า เพราะกรรมการเขารู้ว่าคนไทยเรียนภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่ประถม ดังนั้นทักษะการใช้ภาษาอังกฤษน่าจะชำนาญ อ่าน textหรือเขียนตำราทางวิชาการเป็นภาษาอังกฤษได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่อยากสอบเข้าหลักสูตรอินเตอร์ทั้งหลายในเกาหลี เน้นสอบภาษาอังกฤษดีกว่าค่ะ

ส่วนภาษาเกาหลีนั้น ถ้าเราเข้าปริญญาโทได้เขาจะจับเรามานั่งเรียนเองค่ะ ยิ่งถ้าได้ทุนยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุนส่วนใหญ่เขาให้เราเรียนภาษาก่อนเข้าเรียนป.โทจริงๆอยู่แล้ว

สำหรับนักศึกษาป.ตรีก็น่าจะเหมือนกันนะคะ เกณฑ์ไม่น่าจะต่างกัน

และถ้าหากเราต้องเราสอบสัมภาษณ์เพื่อเรียนต่อกับกรรมการ (ของเราเขาโทรทางไกลมาค่ะ) เขาก็คุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษอยู่ดี ภาษาเกาหลีเขาถามเราน้อยมากๆ

ใครที่อยากมาเรียนต่อที่เกาหลี เรียนภาษาเกาหลีแล้วอย่าทิ้งภาษาอังกฤษนะคะ มันสำคัญกว่าที่คุณคิดค่ะ