รีบๆเขียนบันทึกเอาไวซะหน่อย ก่อนที่จะลืม
จากเหตุการณ์พันธมิตรชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ทำให้พนักงานสายการบินอย่างเราได้วันปิดเทอมมาฟรีๆแบบไม่มีกำหนด
แรกๆก็ร่าเริงดี เพราะได้พัก หลังๆชักเบื่อเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี
เล่นเน็ทก็แล้ว ตระเวณดูหมอให้เพื่อนๆก็แล้ว สนามบินก็ยังไม่เปิดซะที
ส่วนตัวเราไม่ยักโกรธพันธมิตรเหมือนคนอื่นๆหรอกนะ
กลับรู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลต่างๆกันไป
วันดีคืนดีก็ได้รับโทรศัพท์จากทาง Flight Operation ถามว่าไปบินที่ UTP ได้ไหม
ด้วยความที่นอนอืดอยู่บ้านมานานแล้ว ก็ไม่รู้จะนอนสะสมไขมันไปถึงไหน
เลยรีบตกปากรับคำ กลัวเขาจะเปลี่ยนใจ พี่ FLT.OP. แจ้งว่าให้เตรียมตัวมาประมาณ 3 วันก่อน
จัดข้าวจัดของเพราะไม่ได้ไปบิน Lay over ซะนาน
แต่ก็ยังชิลๆ ไปแค่สามวันเอง แต่เราเตรียมตัวไปสำหรับอยู่ได้ทั้งอาทิตย์เลย
เพราะ ณ เวลานั้นยังไม่รู้สถานการณ์ล่วงหน้าว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหน
เข้าบริษัทไปตอนหกโมงเช้า เจอลูกเรือและนักบินรวม 49 คน โดนเรียกมาประจำการ 7 ชุด
โดยให้บินแบ่งๆกันไป 6 ชุด มีอีกชุดเป็นสำรอง
ไฟลท์หลักๆก็ให้บิน UTP ไปประเทศใกล้ๆ
โดยเน้นระบายนักท่องเที่ยว และรับชาวไทยที่ติดค้างกลับมา
ผู้ที่จะเดินทางสามารถเช็คอินได้ที่ไบเท็ค บางนา และที่สนามบินอู่ตะเภา
วันแรกเราไม่มีไฟลท์บิน เท่าที่สังเกตดู ส่วนใหญ่เค้าแคนเซิลกันหมดเลย
เพราะยังเตรียมตัวอะไรกันไม่ค่อยทัน
นั่งรถบัสไปที่พักที่พัทยาก็ร่าเริงกันดี
ที่พักโอเค พออยู่ได้ แม้ไม่สวยเหมือนโรงแรมที่เคยไป Lay-over แต่ก็เข้าใจนะ
เพราะในเวลาแบบนี้ โรงแรมที่พักเต็มไปหมด แถมมบริษัทก็จำเป็นต้องเซฟค่าใช้จ่าย
เขาขอให้นอนกันห้องละสองคนก็โอเค เข้าใจได้
เราจับคู่นอนกับเนเน่ เพื่อนรุ่นเดียวกัน
ความรู้สึกเราเหมือนเป็นป้าๆหน่อย แต่เนเน่จะเป็นคุณหนูญี่ปุ่น น่ารักมากๆ
แหะๆ แอบถ่ายรูป เห็นหลังเนเน่อยู่นิดนึง
เอาของเข้าเก็บแล้วก็ออกไปเดินโลตัสซื้อขนม
กัปตันป๋าก็พาพวกเราไปทานสุกี้กัน อื้อ...อร่อยแซบ
กลับมาจากโลตัสเจอเพื่อนๆที่อยู่วันนี้จะไปเที่ยวเกาะล้านกัน เราก็ใจง่าย กระโดดขึ้นรถขอไปกับเขาด้วย
นี่เลย สภาพเรือไปเกาะล้าน
ส่วนนี่ท่าเรือ
สภาพบนเรือค่ะ
นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด
ส่วนใหญ่พอรู้ตัวว่าต้องอยู่ต่อ สนามบินยังไม่เปิด เค้าก็เที่ยวต่อกันเลย ท่าทางไม่ค่อยทุกข์ร้อนกันเนอะ
จากเรือใหญ่ มีเรือเล็กมารับเราอีกที เพราะเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าเทียบฝั่งบนเกาะได้
ตอนกระโดดลงเรือก็สนุกดีค่ะ แอบหวาดเสียวเล็กน้อย
เพราะหน้าหนาวคลื่นแรง ลมแรงมากๆ แต่ก็รอดปลอดภัยกันดี
ถ่ายรูปห้องน้ำบนเกาะล้านมาด้วยค่ะ
ที่ต้องถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึกเพราะต้องการบันทึกไว้
ห้องน้ำอะไรค่าเข้าโคตรแพงเลย ครั้งละ 10 บาทแน่ะ
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะ
เดินเล่นริมหาด แล้วก็หาอะไรทานกันนิดหน่อย
ตามรูปเลย
รูปเดี่ยวข้าพเจ้าก่อน
ตามด้วยรูปชาวแก๊ง
กลับมาถึงฝั่งตอนค่ำๆ วันนี้พี่ๆผู้ใหญ่ในบริษัทพาเรามาทานข้าวกันที่บางเสร่
อาหารทะเลสด อร่อยดีค่ะ ต้มยำกุ้งแซบมากๆ
ตกดึกบางคนไปร้องคาราโอเกะกันต่อแต่เราต้องขอตัว เพราะอีกวันบินเช้า
อ้อ ! ลืมเล่าไป การไปบินครั้งนี้เค้าจะจัดทีมลูกเรือให้เราเป็นทีมๆเลย
เวลาเราบินกับทีมไหน เราจะจับคู่บินกันไปจนหมดสามวัน
เพราะแค่นี้ทาง FLT.OP.ก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว
และเราใช้เครื่องแอร์บัสลำใหม่บินทั้งหมด มีโบอิ้งประจำอยู่เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ลูกเรือไฟลท์เรามีนักบิน 2 ท่านคือกัปตันพี่ใหญ่และ FO พี่หมู ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
ส่วนฝ่าย Cabinนั้นมีสี่คนคือ พี่นิ้ง พี่ต้น กิ๊บซี่ และเราเอง
วันแรกที่บินเราได้บิน MFM ไฟลท์เช้า แต่พอเอาเข้าจริงๆดีเลย์ซะเยอะ
ไม่เกี่ยวกับฝ่ายของลูกเรือ แต่เสียเวลาตอนขนถ่ายผู้โดยสารจากไบเทค และโหลดกระเป๋า
เพราะทุกอย่างต้องเป็นManual ทั้งหมดค่ะ มันเลยช้า
ขากลับก็ค่อนข้างช้าเพราะพอมาถึงแล้วเราโดนให้บินรอที่สนามบิน UTP นานมาก
รันเวย์มีรันเวย์เดียว สายพานกระเป๋าก็มีสายพานเดียวแต่มีหลายสายการบินรอจะใช้
กว่าเราจะได้เอาเครื่องลงตามคิวก็นานมากแล้ว
ถ้าเราจะไปต่อคิวใช้สายพานกระเป๋าอีก ผู้โดยสารคงเหนื่อยอ่อนไปหมด
ดังนั้นเลยต้องใช้วิธีให้พี่ Ramp ช่วยขนกระเป๋าจากใต้ท้องเครื่องมาวางไว้ข้างเครื่อง
แล้วจึงให้ผู้โดยสารแต่ละท่านเลือกกระเป๋าไปเลย แล้วค่อยไปผ่าน Security ที่อาคารผู้โดยสารเอาเอง
ฟังดูยากหน่อย แต่ก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดแล้ว
ลงมาดีเลย์ไปประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง
แต่ก็เป็นไฟลท์แรกที่ลงเร็วสุด แถมดีเลย์น้อยสุดด้วย
ลงมาก็ได้แจ็คพอร์ต ต้องไปบิน KL อีกวัน
แต่ก็โอเคนะคะ ไฟลท์ไม่เต็ม ผู้โดยสารไม่เยอะ แล้วก็ไม่เหนื่อยมาก
ขากลับเราก็เช็คเอาท์เอาของออกมาเลย เพราะเราจะเอาเครื่องบินจาก KL ลงที่SVBหรือสุวรรณภูมินั่นเอง
ขอไม่เล่ารายละเอียดทั้งหมดแล้วกันค่ะ
มีแต่ภาพประทับใจในการไปบิน rescue ไฟลท์ครั้งนี้
กลับมาคราวนี้ ทำให้รักบริษัทมากขึ้นเป็นกอง
ใครๆก็บินได้ Everyone can fly ! ค่ะ
