Sunday, April 06, 2008

SNY on A 320

29 MAR 08


วันนี้ไป SNY เครื่อง A320 วันแรก
ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่ใครๆเค้าตื่นเต้นกัน ไม่กลัวโดนคนมาเลย์จิกด้วย
คงเป็นเพราะตอนที่ทำงานที่เอเชียน่า เราโดนคนเกาหลีจิกมาซะจนชิน
ก็เลยรู้สึกเฉยๆกับความบ้าอำนาจของคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น"รุ่นพี่"บนไฟลท์
คำว่า "ซอนแบนิม" มันโหดกว่าคำว่า "รุ่นพี่" หรือ "Senior"
ใครไม่เชื่อลองไปร่วมงานกับคนเกาหลี แค่อาทิตย์เดียวก็ขี้คร้านจะจำจนวันตาย

หัวหน้าลูกเรือให้เราเลือกตำแหน่งการทำงาน ว่าอยากทำงานในตำแหน่งอะไร
เราเลยเลือกเป็น P2 เพราะนั่ง stationเดียวกันกับ CR2 สมัยที่เราอยู่เอเชียน่า
คิดเอาเองว่าเริ่มจากอะไรๆที่ตัวเองคุ้นเคยก่อนคงดี
แล้วมันก็ง่ายจริงๆ
งานวันนี้ราบรื่น แสนสบาย ผู้โดยสารก็น้อย ไฟลท์ก็ง่ายๆ
ลงเครื่องมาตั้งแต่ยังไม่ทันเที่ยง
แต่......

เราเรียกรถโรงแรมมารับไม่ได้ ต้องรอเพื่อนให้มาพร้อมๆกัน
เอ้า ! รอก็รอ
พอทุกคนมากันครบ กลับกลายเป็นว่าระบบโทรศัพท์ล่ม โทรไปไหนไม่ได้ซะงั้น
เราเลยต้อแกร่วรออยู่ที่แอร์พอร์ตจนสามโมงครึ่ง
กว่าจะมาถึงโรงแรม ก็สี่โมงเย็นพอดี

เหนื่อยรอรถนี่แหละ ไม่ได้เหนื่อยทำงาน
-_-'
พรุ่งนี้จะเป็นยังไงบ้างยังไม่รู้เลย


...........


ตอนนี้ที่ที่เราอยู่ฝนตกหนัก ทั้งๆที่อากาศร้อนอบอ้าวมาทั้งวัน
อากาศข้างนอกร้อน แต่ข้างในโรงแรมเย็นเฉียบ ปรับแอร์ก็ไม่ได้
ตอนนี้เลยรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายๆจะเป็นไข้
ได้แต่กินยาแล้วก็นอนหงอยๆคนเดียว

อีกสองวันบีก็จะมาแล้ว
อยากเจอบีเร็วๆ จะได้ไปเที่ยว ไม่ต้องเหงาอยู่แบบนี้

คืนนี้จะลองไม่โทรหาเธอ
ถ้าเธอไม่โทรมา หรือไม่ส่งข้อความมา ก็คงไม่ได้คุยกัน

คิดถึงนะ
แต่...ขอรอโทรศัพท์เธอดีกว่า


...........


30 MAR 08


วันนี้ เราต้องไปบินสี่ไฟลท์ KBR-DPS แต่พอถึงเวลาบินจริงๆเรากลับโดนออฟโหลดลงมาซะงั้น
เพราะไฟลท์ที่จะไป DPS เต็ม ไม่มีที่นั่งให้ลูกเรือ SNY อย่างเรา
ลงเครื่องมาตั้งแต่ 9.45 บินขำๆอีกแล้ว
ลงมาไม่มี de-briefing เพราะลูกเรือทั้งทีมเค้าเปลี่ยนไปบินไฟลท์อื่นกันหมด กับโรงแรมได้เลย
เจอกับพี่ปอนด์ ที่เพิ่งโดนออฟโหลดลงมาเหมือนกัน อารมณ์นั้นคือ เราควรจะทำอะไรซักอย่างมั๊ย
เพราะนี่มันก้อยังเช้าอยู่อะนะ มองตากันกับพี่ปอนด์ ราวกับรู้ใจกันดี
ถึงโรงแรมปั๊บ เปลี่ยนชุดปุ๊บ ทั้งเรา พี่ปอนด์ (และพี่วัฒน์)ก็พุ่งออกไปเที่ยวกันทันที
เราตกลงกันว่าจะเดินเล่นกันที่บูกิต บินตัง เป็นแหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่นมาเลย์
ลักษณะคล้ายๆกับสยาม มาบุญครอง โบนันซ่าบ้านเรา

นั่งรถ KL Transit ไปต่อแท็กซี่จ่ายเงินค่าแท็กซี่ไป 11 RM ก็ไปถึงบูกิต บินตังกันเรียบร้อย
เราตัดสินใจแยกตัวออกมาเลย ปล่อยให้พี่ปอนด์กับพี่วัฒน์เดินกันหนุงหนิงสองคน
เราไม่รู้จะทำอะไรดี เลยตัดสินใจไปตัดผมดีกว่า เพราะตอนนี้ผมม้ามันก็ยาวทิ่มตาเป็นม้าพยศ
เลือกร้านที่หน้าตาใช้ได้ ลองตัดดู ปรากฏว่าวิธีการสระผมของที่มาเลย์พิสดารมาก
คือเค้าสระผมให้เราแบบแห้งๆ ใช้น้ำนิดเดียว แล้วค่อยเดินไปล้างที่อ่าง
เราเห็นเค้าสระ ก็งงๆ อยู่ แต่ไม่รู้จะทำไงได้
ตัดผมออกมาหน้าตาเหมือนเดิม แต่ผมม้าหนาขึ้นกว่าเดิม แบ๊วกว่าเดิมอีก ไม่รู้จะทำไง
ชั้นไม่ได้อยากจะแอ๊บแบ๊วนะ แต่คุยกับไอ้ช่างทำผมไม่รู้เรื่องต่างหาก -_-‘

ตัดผมเสร็จ เดินโฉบไปแถวๆร้าน VNC กับ nose ก็ได้รองเท้ากับกระเป๋ามาตามเคย
ประเทศนี้มันมีดีอยู่แค่รองเท้ากับกระเป๋าจริงๆ
ได้รองเท้า กระเป๋าลดราคามา ค่อยสบายใจ ได้เวลานัดกันกับพี่ปอนด์และพี่วัฒน์พอดี
กลับโรงแรมได้แระ
ขึ้นรถโมโนเรลไปต่อรถที่ KL sentral ก่อนขึ้นรถไฟกลับ เราแวะซื้อตั๋วไปเที่ยวเก็นติ้งเอาไว้
ค่าตั๋วก็โอเค ไม่แพงมาก เป็นแพ็คเกจรวมค่ารถ ค่าเคเบิลคาร์ และค่าสวนสนุก แค่ 42 RM


...........


31 MAR 08



วันนี้บินขำๆอีกแล้ว
ไป MYY ลงไฟลท์มาตั้งแต่เที่ยง ลูกเรือมาเลย์กลัวเราหัวเครื่องยันท้ายเครื่องเหมือนเดิม
แอบได้ยินเค้าเม้าท์กันว่า เค้ารู้สึกว่าเราท่าทางเนี้ยบยังกับเป็น SFA หรือ IFS
ฟังแล้วก็ได้แต่ปลง
ใครจะรู้มั่งว่าที่จริงเราโบร๋วขนาดไหน
บินๆไป ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าหรอกนะ ^_^’

ลงมาพร้อมกับพี่แพน กลับโรงแรมพร้อมกัน
แล้วก็นัดกันมานั่งปาร์ตี้มาม่ากันสองคน กินมาม่ากันขำๆเพราะฝนตก เลยขี้เกียจออกไปไหน
วันนี้ลูกเรือไทยขอ MC (แปลว่าลาป่วย)กันเยอะเลย คงเป็นเพราะเป็นวันสุดท้ายของเดือน
ก็รักษาสิทธิซะหน่อย เอาให้คุ้ม เพราะเค้าให้ป่วยได้เดือนละวัน
พอบ่ายแก่ๆก็มีเม่ยมานั่งคุยด้วย เม่นนี่ก็ MC มาเหมือนกัน
เม้าท์กันสามคนเรื่องสัพเพเหระตามประสาเพื่อนสาวจะคุยกันได้

พอได้เวลาก็นั่งรถไปรับบีที่แอร์พอร์ท

ดีใจนะที่เจอบี เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องเหงาคนเดียวอีกแล้ว

No comments:

Post a Comment