สมัยเราเรียนม.ปลายนั้น ในตำราเรียนเขาเรียกประวัติศาสตร์ยุโรปในช่วงนี้ว่ายุคมืด (Dark Age) หรือยุคกลาง (Medieval Age) หมายถึงสภาพสังคมในทรีปยุโรปช่วงศตวรรษที่ 4-16 อันเป็นช่วงเวลากว่าพันปี ที่คริสตศาสนาเข้ามามีอิทธิพล และมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตในสังคมยุโรป
เริ่มต้นด้วยเสื้อปักตัวนี้ ลายอลังการมาก

ห้องนอนของผู้มีอันจะกินในสมัยนั้น ทางmuseumได้รับงานชิ้นนี้มาแบบทั้งห้องนอน ก็เลยแซะกันมาให้ดูทั้งห้องเลยทีเดียว

น่าทึ่งกับความสามารถของฝรั่งที่สามารถแซะห้องโบราณขนาดนี้มาเก็บไว้ได้โดยบุบสลายน้อยที่สุด แต่ที่น่าเห็นใจคือประเทศเจ้าของงานศิลปะ เขาจะคิดอย่างไรก็ไม่ทราบได้นะคะ ที่จู่ๆมีเศรษฐีมากว้านเอางานศิลป์ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไปเช่นนี้

ผนังวิหารจากอิตาลี นี่ก็แซะของเขามาไว้ที่อเมริกาเช่นกัน


พรมขนาดยักษ์ ทอมือ

งานกระจกสี แซะมาจากโบสถ์ที่ฝรั่งเศส




นึกย้อนไปถึงวิชาอารยธรรมตะวันตก สมัยที่ฉันเรียนวิชาพื้นฐานของคณะ คุณครูสอนให้พวกเราใช้คำเรียกว่ายุคกลาง แทนคำว่ายุคมืด เนื่องจากคำว่ายุคมืดนั้น ในความหมายทางวิชาการ ค่อนข้างจะไปทางด้านลบ นั่นคือหมายถึงความเชื่อแบบงมงาย ไร้เหตุผล ศิลปะวัฒนธรรมก็เป็นแบบไม่มีอารยธรรม ไม่มีความศิวิไลซ์ ในขณะที่คำว่ายุคกลาง หมายถึงยุคที่อยู่ระหว่างอารธรรมกรีก โรมันโบราณ เชื่อมต่อกับยุควิทยาการสมัยใหม่
ที่ให้เปลี่ยนมาเรียกเช่นนี้ เพราะนักวิชาการสมัยใหม่มองว่า อย่างไรก็ตาม สังคมในยุคนี้มีอารยธรรม ความคิด แบบแผน ความเชื่อเป็นของตัวเอง จะไปเรียกว่าความเจริญในแบบของเขาเป็นยุคมืดก็คงไม่ใช่


ภาพ Madonna and child หรือพระแม่มารีอุ้มพระบุตร ซึ่งเป็นแบบที่นิยมสร้างกันมากในสมัยกลางค่ะ

งานศิลปะชิ้นโบแดงอีกชิ้นหนึ่ง ที่ถือเป็นความภูมิใจของทางพิพิทภัณฑ์ ได้แก่ Choir Screen แผ่นนี้แหละค่ะ

ดูกันให้เต็มตากับความยิ่งใหญ่อลังการ Choir Screen ชิ้นนี้สร้างจากเหล็กกล้า หล่อขึ้นมาอย่างอ่อนช้อย วิจิตรมาก (ถ้าจำไม่ผิด) ทางMET ได้มาจากสเปน

แท่นร้องเพลงสวด อยู่ในส่วนของ Choir Screen เช่นกันค่ะ

Madonna and Child อีกแล้ว

งานนิทรรศการ Anglo Mania จัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มประเทศทางยุโรปตะวันตกในยุคกลางเรื่อยไปจนถึงก่อนเรอเนสซองต์ งานแสดงส่วนใหญ่เป็นพวกคอสตูมที่ใช้จริงในสมัยนั้น และเนื่องจากงานศิลปะเหล่านี้ มีเจ้าของ และได้รับการจดลิขสิทธิ์เอาไว้ ฉันจึงไม่สามารถถ่ายภาพได้ค่ะ

มาต่อกันที่งานสมัยเรอเนสซองต์

กระดูกสัตว์แกะสลักเป็นโบสถ์จำลอง


ต่อด้วยงานรุ่นร็อคโคโค่ และบาโรค
(ต้องขออภัยจริงๆค่ะ ด้วยความรู้ที่มีอยู่น้อยนิด ทำให้แยกไม่ออกจริงๆ ระหว่างงานแบบร็อคโคโค่ และบาโรค )



ห้อสีขาว(แอบตั้งชื่อเองค่ะ) พวกกรอบหน้าต่าง ประตูเหล่านี้ ล้วนเป็นของจริงทั้สิ้น
ศิลปะสเปนยุคกลางต่อเรอเนสซองต์ค่ะ


มองไกลๆจะเห็นบัลโคนี ซึ่งก็แซะมาจากของจริงเช่นกัน

ภาพ Pieta หรือพระแม่มารีและศพของพระบุตร แสดงถึงความรู้สึกอาดูรอย่างลึกล้ำ






ต่อด้วยงานบาโรคของฝรั่งเศสค่ะ


บริเวณนี้คือ American Wing จัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้งของอเมริกา





เพลงวันนี้ เรายังเวียนวนอยู่ใน youtube และกลิ่นอายของเมืองนิวยอร์กค่ะ
เพลง New York State of Mind งานของเจ๊ Lea สาวฟิลิปปินส์คนนี้พลังเสียอลังการกว่าน้องผัดฉ่าประมาณ 3,000เท่า
โย๋เย๋ มาว่าน้องผัดฉ่า ทามมายยย
ReplyDeleteหาเพลง NewYork NewYork ให้หน่อยจิ