Sunday, January 13, 2008

ย้อนอดีต.....วันรับปริญญา

เมื่อวานไปงานรับปริญญาของ BeWisH มาค่ะ

รูปรับปริญญางานบี ขอแปะโป้งเอาไว้ก่อน เพราะยังไม่ได้ซีดีจากคุณนายพันช์
แต่ที่อยากเอารูปมาแปะบล็อกในวันนี้ เป็นรูปสมัยพระเจ้าเหา ในงานรับปริญญาของตัวเอง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันนานมาแล้ว หรือเป็นเพราะวันนั้นมันยุ่งๆ
เราเลยจำงานรับปริญญาของตัวเองไม่ได้มากเท่าไหร่
จำได้แต่ว่ามีช่างกล้องสามคน คือแม่ และลูกศิษย์วิชาถ่ายรูปของแม่อีกสองคนที่จ้างมาถ่ายรูปให้เรากับหมาย้วย

ด้วยความที่เราใช้กล้องและช่างภาพชุดเดียวกัน ถ่ายรูปออกมาเลยมีแต่รูปคู่เต็มไปหมด -_-'

รูปที่ถ่ายกับเพื่อนๆคนอื่นก้อพอมีบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในความทรงจำซักเท่าไหร่

มาดูรูปเก่าๆกันดีกว่าเนอะ

รูปแรก
Photobucket
รูปรวมเด็กเอก Dramatic Arts ค่ะ
อักษรปีที่เราเข้าไปเรียน มีเด็กเข้าเอกละครแค่ 9 คน แต่จบมาแค่ 8 คน
เพราะหนึ่งในจำนวนนั้นซิ่วไปเข้าคณะวิศวะคอม ด้วยความที่เก่งจัด
(ไอ้หนุ่มมันเด็กเลขโอลิมปิก ให้มันไปเฮอะ)

ยินมาว่าปัจจุบัน เอกละครเป็นเอกที่คนเรียนกันเยอะ เพราะมีเด็กอยากเข้ามาเป็นส่วนเบื้องหลังเบื้องหน้าในวงการบันเทิงกัน
ดาราในวงการบันเทิงที่เป็นศิษย์อักษร ละครก็มีไม่น้อย
ไม่รู้ว่าตอนนี้ยอดเด็กเอกละครปาเข้าไปกี่คน แต่เคยได้ยินครูเล่าให้ฟังว่า มันเยอะไปกว่านี้ได้ไม่มากหรอก
เพราะอาจารย์ที่สอนมีไม่พอ บุคลากรทางการละครในเมืองไทยยังขาดแคลนอยู่ จริงเท็จประการใดก็ไม่ทราบนะคะ

ต่อๆๆ
เพื่อนสมัยเรียนเป็นเพื่อนที่....จะว่าสนิทก็สนิทกันค่ะ เพราะมันมีกันอยู่แค่นี้
เวลาเรียนก็ไปกันเป็นกลุ่มๆ ใครคิดจะโดดเรียนนี่ แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะครูจะรู้เลยว่าใครหายไปบ้าง
หมดคาบปั๊บ เพื่อนจะโทรมาเลยว่าครูให้ตาม ว่าแกหายไปไหน

เวลาเรียนก็ต้องทำงานละครด้วยกันตลอด กินนอนด้วยกันในโรงละครนั่นแหละ
เป็นชีวิตที่สนุกไปอีกแบบ เรียนบ่าย เลิกเรียนก้อทำละครถึงเย็นย่ำค่ำดึก แล้วแต่ว่าเลิกกี่โมง
เร็วหน่อยก้อสี่ห้าทุ่ม บางทีตีสองตีสามก็เคยมาแล้ว
ดังนั้น แทบจะไม่มีใครเห็นเด็กละครลงเรียนวิชาตอนเช้าๆ เพราะมันไม่มีปัญญาลุกมาเรียนกันหรอก

Photobucket

หลังจากเรียนจบทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน ตามที่ตนเองถนัด
บางคนก็ยังเวียนว่ายอยู่ในวงการบันเทิงเบื้องหน้าบ้าง เบื้องหลังบ้างตามสะดวก
บางคนก็ไปเรียนต่อ แสวงหาตัวเองกันต่อไป บางคนก็ติสท์มาก หนีหายจากเมืองกรุงไปเลย
เพื่อนฝูงที่เคยสนิทกันก็เลยห่างๆกันไป
โดยเฉพาะงานที่เราทำ มันเป็นงานที่ไม่มีเวลาแน่นอน ก็เลยยิ่งทำให้ไม่มีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิตแบบนั้นกับเพื่อนๆอีก

แต่มันก็ยังเป็นอดีตที่สวยงามนะ นึกถึงทีไรก็อมยิ้มได้ทุกที

Photobucket Photobucket

Photobucket

สามรูปนี้เป็นรูปที่นัดมาถ่ายนอกรอบค่ะ
จำได้ว่าเป็นวันซ้อมรับปริญญา ทำผมแต่งหน้าเอง (มั๊ง) หลังจากที่ถ่ายรูปกับเพื่อนๆเสร็จตอนเช้า
ตอนบ่ายๆก็เดินข้ามถนนมาถ่ายรูปที่ฝั่งสทป.

Photobucket
เช้าของวันรับปริญญาค่ะ ยังสดใสอยู่ รูปนี้เป็นรูปที่เราชอบมาก
อารมณ์ว่าแอบกันอยู่หลังตึก แอบคุยกันหนุกๆ แล้วหันมาถ่ายรูป
ถ้าจำไม่ผิด รูปนี้แม่เป็นคนถ่ายให้

Photobucket

หลังจากที่รับพระราชทานปริญญาบัตรในตอนบ่าย เราก็มาถ่ายรูปกันต่อ
แสงจะเป็นแสงแดดอ่อนๆ กำลังสวย แต่หน้าโทรมแล้วค่ะ -_-'

Photobucket

รูปนี้เป็นรูปที่เราชอบมาก เพราะถ่ายที่พระบรมรูปสองรัชกาล
มีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับพระบรมรูปสองรัชกาลนี้ เพราะเราไปไหว้ท่านตั้งแต่วันสมัครเอ็นท์
ผ่านไปครั้งใด ก็ต้องยกมือขึ้นไหว้ ทำความเคารพทั้งสองพระองค์นี้
ไม่รู้เด็กจุฬาคนอื่นจะเป็นแบบนี้รึเปล่า

Photobucket Photobucket

สองรูปนี้แม่ถ่ายให้อีกแล้ว ถ่ายที่หอประชุมจุฬา ชอบมากอีกเช่นกัน

Photobucket

หมาย้วยเรียกรูปนี้ว่า "มนต์รักทรานซิสต้น"
เพราะตอนนั้นหนังเรื่องมนต์รักทรานซิสเตอร์กำลังดัง
แต่ตอนที่ถ่ายรูปนี้ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อยู่นะ
นั่งพักกันอยู่แล้วเกิดนึกสนุก เลยถ่ายมาได้อีกรูปเท่านั้นเอง
รูปนี้เป็นภาพประทับใจของหมาย้วยค่ะ

Photobucket

Photobucket

หมดวันแล้วค่ะ
ไปนั่งรอรถกันตรงหน้าคณะวิศวะ ที่จริงเราก็มีความทรงจำอะไรๆที่คณะวิศวะอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน



อดีตที่สวยงามค่ะ
วันไหนทุกข์ใจ มีเรื่องไม่สบายใจขึ้นมา
ย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆ
อย่างน้อย เราก็เคยมีคืนวันที่สวยงามแบบนี้ เก็บเอาไว้ในความทรงจำ

ไม่มีใครรู้อนาคตได้จริงๆ

No comments:

Post a Comment