Saturday, February 04, 2006

กลับมาจากสิงคโปร์แล้วค่ะ


เพิ่งกลับจากสิงคโปร์ค่ะ
ถ้าใครที่สนิทกับเรามากๆก็จะพอรู้นะ
ว่าไฟลท์สิงคโปร์เป็นหนึ่งในไฟลท์ยอดเซ็งของเรา
ได้เมื่อไหร่ แสดงว่า ถึงเวลาไปกรวดน้ำทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรแล้ว
เพราะสิงคโปร์เป็นอะไรที่.....ห่วยอะ -_-'
เริ่มตั้งแต่flight time ที่ไกลระเบิดเถิดเทิง
เป็นไฟลท์ D type ที่ไกลที่สุดในแถบ South East Asia
วันนี้ที่ไปขาไปตั้งหกชั่วโมงครึ่ง
ขากลับห้าชั่วโมง ห้าสิบนาที
รู้ไหมว่าแปดชั่วโมงนิดๆ ก็บินไปถึงซิดนี่ย์ได้แล้วนะ (อันนี้เวลาหน้าร้อนนะ)

ภาพหอบังคับการของสนามบินชางกีที่สิงคโปร์ค่ะ
อีกอย่าง อันนี้สำคัญมาก
นิสัยการใช้บริการบนเครื่องบินของชาวสิงคโปร์
เป็นเรื่องที่ "สุดจะทน"จริงๆค่ะ
มีเคสหลายครั้งมาเล่าสู่กันฟัง
คือก็เข้าใจอะนะ ว่าคนเราขึ้นเครื่องบิน
ก็ย่อมคาดหวังการบริการที่สุดแสนจะดีเลิศ
บางทีต้องการอะไร ก็จะเอาให้ได้เดี๋ยวนั้น
เอ่อ....แต่ช่วยอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงหน่อยได้มั๊ย
ผู้โดยสารสิงคโปร์เนี่ย ติดอันดับความเรื่องมาก
ขึ้นมาปุ๊บ ต้องขอก่อนเลยอะไรที่เป็นของฟรี
ไพ่ ของเล่น ของชำร่วยของสายการบิน รองเท้าแตะ ยันไปถึงของ upgrade
เฮ้อ ! ของพวกนี้ที่จริงเราก็โหลดขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ
ช่วยเข้าใจนิดนึงว่าพื้นที่ในเคบินมันมีจำกัด
การที่ผู้โดยสารหนึ่งท่าน จะเอาของที่ระลึกสายการบินไปทุกอย่างเลยเนี่ย
..................
มันก็พอจะเป็นไปได้นะ ถ้าคนอื่นๆเขาไม่ขอ
คือเราไม่ได้โหลดมาตามจำนวนคนนะ
โหลดมาเผื่อๆผู้โดยสารต้องการให้เราอำนวยความสะดวก เราก็พอจะมีให้
อย่างเช่นไพ่สักสำรับนึง บางทีมาด้วยกัน เล่นด้วยกันไม่ได้เหรอ
ทำไมจะต้องมีคนละชุด
คือเข้าใจว่าอยากเก็บเป็นที่ระลึก
แต่ถ้าเรามีไม่พอ มันก็ไม่ใช่ความผิดของเราไม่ใช่เหรอ
เราเคยโดนผู้โดยสารก่นด่าบนเครื่อง เรื่องไม่มีของแจกให้
นึกในใจ กูผิดตรงไหนวะ !!!
ฮือๆๆๆๆๆๆ

ยังไม่หมดค่ะ ในการบริการอาหารและเครื่องดื่ม
ผู้โดยสารสิงคโปร์นี่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์อีกเหมือนกัน
แชมป์อะไรก็ได้ขอให้ได้คุ้ม
เอ่อ...ลืมอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย
คุณขึ้นเครื่องบินมาเพื่อเดินทางนะคะ ไม่ได้มาเลี้ยงโต๊ะจีนลิง
บางทีเวลาเสิร์ฟอะไร ผู้โดยสารสิงคโปร์มักจะมี side oder เยอะผิดปรกติชาวบ้านเขา
มักจะอยากกินอะไรที่เกินความสามารถของแอร์
อะไรที่มันอยู่บนcart มักจะไม่เป็นที่ต้องการ แต่อยากได้อะไรที่แบบ.......
ไอ้การขอถั่วที่ใช้กินแกล้มเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆมันก็พอทน
(ถ้าขอทีเดียว แล้วแอร์ไม่ต้องเดินหลายรอบ)
แต่การขออะไรพิสดารเนี่ย แอร์อยากจะยกรถ cart ทุ่มหัวซะเดี๋ยวนั้น
เคยมีไฟลท์นึงที่เราเคยโดนผู้โดยสารขอชาโสมใส่นม
โอ้ !!! โดนครั้งเดียวไม่ว่า
แต่โดนแบบ เป็นสิบๆแก้ว (เนื่องจากผู้โดยสารต้องการความคุ้ม)
อยากจะบอกว่า แอร์ก็แทบตายเลยค่ะ
เวลาสั่งก็ไม่สั่งทีเดียวนะ
สั่งทีละแก้ว แล้วแบบ เราเดินขาขวิดเลย ฮือๆๆๆๆๆ
เวลามี meal service ผู้โดยสารสิงคโปร์ก็ติดอันดับเรื่องมาก (แบบรู้มากไง)
เราเข้าใจนะ เวลาที่คุณไม่กินอะไรบางอย่าง
ตามหลักศาสนา หรือหลักการดำรงชีวิตอะไรก็ตามของคุณ
แต่ช่วยสั่งอาหารพิเศษได้ไหม
(เรื่องนี้ผู้โดยสารไทยก็เป็นค่ะ ขอบอก)
บนเครื่องที่เราบินอยู่อาหารมักมี 2 อย่างให้เลือก
คือเนื้อวัว (ของแพงของชาวเกาหลี) และอาหารทะเล
เราเคยโดนบ่นเรื่องทำนองนี้มาเยอะ
เช่น เนื้อวัวกินไม่ได้ อาหารทะเลก็แพ้ ไปเอาอาหารจาก business classมาให้กินทีสิ
โห ! เล่นแบบนี้เลยเหรอคะ คุณผู้โดยสาร
คนเดียวไม่เป็นไร
แต่วันนั้นที่เจอ ประมาณ เกินครึ่งของผู้โดยสารพูดแบบนี้กับเรา
สงสัยจะได้รับการบอกเล่ามาเหมือนๆกัน
เราเลยทนไม่ไหว สติขาดผึงลงที่ผู้โดยสารงี่เง่าคนหนึ่ง
มาทำท่างี่เง่าๆใส่เรา แล้วแบบ หาว่าเป็นความผิดของเรา
ไอไม่กินเนื้อ แล้วก็แพ้อาหารทะเล ยูไปเอาอาหารชั้นธุรกิจมาเสิร์ฟทีซิ
ไอไม่รู้มาก่อนว่ามีเมนูอะไร ทำไมสายการบินยูแย่แบบนี้
ถ้าเป็นสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ไอเคยนั่งนะ ไม่มีทางเสิร์ฟอาหารแย่ๆแบบนี้แน่นอน
เราเลยตอบไปว่า
As you know, this is the aircraft, not the restaurant
เราเองก็เป็นแอร์ ไม่ได้เป็นคนทำกับข้าว
จะให้เรามาทำกับข้าวให้ใหม่บนเครื่อง เราคงทำไม่ได้
และวันนี้ Business Classก็เต็มทุกที ไม่มีอาหารเหลือแน่นอน
เราขอโทษถ้าทำให้ยูรู้สึกแย่ แต่ถ้าไม่กินข้าว งั้นเอาถาดอาหารไปนะ
กินพวกสลัดและขนมที่อยู่ในถาดไปก็แล้วกัน แล้วไอจะเสิร์ฟขนมปังเพิ่มให้ ยูจะได้มีอะไรรองท้อง
นังสิงคโปร์นั่นก็ทำท่าแบบ เซ็งสุดๆ แล้วก็บอกเราว่า
เออ งั้นเอาปลามา แล้วไอจะเขียนจดหมายคอมเพลนบริษัทยู ว่าเอาอะไรมาเสิร์ฟไม่รู้ ห่วยจริงๆ
แล้วก็จัดการกินอาหารทะเลนั่นจนหมดจาน
(จริงๆก็กินได้นี่หว่า ไม่เห็นมันแพ้อะไรเลย ดัดจริตจริงๆ เราดูออก)
o~o~o~o~o~o~o~o~

กลับมาเล่าถึงสิงคโปร์คราวนี้ต่อดีกว่า
ไม่มีอะไรพิเศษเลยค่ะ
แค่มีความสุขในโรงแรม ดูหนังแผ่น ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น
อย่าบอกใครเขาเชียวว่าเราเพิ่งได้ดู ดีเลย์สุดๆ
ตื่นมาก็ไปกิน Yong Tau Foo และข้าวมันไก่ที่ Tanglin Mall หลังโรงแรมเหมือนเดิม

นี่แหละค่ะ Hainanese Chicken ที่แสนจะเลื่องชื่อของสิงคโปร์

นี่คือหน้าตาของเกาเหลาเย็นตาโฟแบบสิงคโปร์ หรือ Yong Tau Foo ค่ะ ทั้งแบบก่อนปรุง และหลังปรุงแล้ว
เวลาจะกิน เขาจะให้เราเลือกแบบคล้ายๆบุฟเฟต์ว่าเราจะใส่กี่อย่าง แล้วไปลวกตรงที่คิดตังค์


ดีตรงที่คราวนี้เราเอา notebookไป ดักจับสัญญาณไวร์เลสได้เยอะเลย
ถึงจะโดนบล็อคบ้าง แต่เราก็มีเน็ทฟรีใช้แหละเนอะ
สบายดีจริงๆ
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเรา นอนตีพุงหนึ่งวันก่อนไปไซ่ง่อนวันมะรืน
คิดถึงเมืองไทยที่สุดเลย

หน้าตาของ Luksa หรือก๋วยเตี๋ยวสิงคโปร์ค่ะ

No comments:

Post a Comment