ไปไซ่ง่อนคราวนี้ไปกับเครื่อง A 330
ซึ่งปรกติเราจะใช้บินแต่ไฟลท์สิงคโปร์
ชั่วโมงบินพอๆกับบินกลับกรุงเทพฯ
คือประมาณ 5ชั่วโมงครึ่ง
กว่าจะไปถึงเล่นเอาเหนื่อยอ่อน
เพราะผู้โดยสารเต็มลำ แถมแอร์โซน C ที่เราทำงานอยู่มีแค่ 3 ชีวิต
กลายเป็นรุ่นพี่ขาย duty free ซะหนึ่งคน
บ่นกับรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันว่า
มาไซ่ง่อนคราวนี้เหนื่อยกว่าทุกที
รุ่นพี่บอกว่า เหรอ ไอรู้สึกเฉยๆนะ ไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่
เรานึกในใจว่า ใช่สิ ก็ไอทำงานหนักอยู่คนเดียวนี่หว่า T_T
คราวนี้บินมากับแอร์ญี่ปุ่นชื่อโทมะ เป็นแอร์รุ่นเดียวกัน แต่เทรนจบก่อนเราแป๊บนึง
เจ๊แกเหมือนเกาหลีมากจนเราไม่รุ้สึกถึงความแตกต่างเลย
มาถึงโรงแรมนิวเวิร์ล หิวมากๆ เราเลซัดมาม่าเพื่อนยามยากไปห่อนึง
แล้วดูมหา'ลัยเหมืองแร่ มีความสุขมากมาย

โรงแรมที่ไซ่ง่อนค่ะ สวยงามหรูหราสมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว

ห้องนอนในโรงแรมค่ะ
ตื่นขึ้นมาตอนเช้า (ที่จริงก็ไม่เช้าเท่าไหร่ ตื่นซะ11 โมง)
ต้นโทรมาโวยว่าย้ายโรงแรมไม่ยอมบอก
ที่จริงเราย้ายนานแล้ว แต่ต้นมันไม่จำเองตังหาก มาว่าเราได้ไง
คุยกันไม่นานเพราะค่าโทรไซ่ง่อนแพงดับจิต

โรงแรมที่เราอยู่มันอยู่ใกล้ตลาดมาก
เดินออกจากโรงแรมไปข้างหลัง
ข้ามแยกไปหน่อยเดียวก็เจอตลาดBenThanh แล้ว
ได้กินเฝอไก่อย่างมีความสุขที่ร้าน Pho 2000

เฝอไก่แห่งร้าน Pho2000ค่ะ เสิร์ฟพร้อมผักสดและมะนาวฝาน
ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่าว่า
เฝอต้นตำรับกินที่เวียดนาม
มันอร่อยกว่ากินที่ไหนๆในโลก
น้ำซุปกลมกล่อม ผักเสิร์ฟเต็มจาน มะนาวฝานอีกทั้งลูก
กินเฝออิ่มก็ข้ามถนนไปเดินที่ตลาดเบ็นทัน
( Ben Thanh Market หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่าเจ๋อเบิ๋นถั่น)

ภาษาหงึมหงำก๋ำก๋อยของชาวเวียดนามค่ะ ใช้ตัวอักษรโรมัน แต่อ่านออกเสียงกันคนละทางเลย
คราวนี้ช้อปปิ้งได้กระเป๋า Coach ปลอมมา 2 ใบ
ราคาสมกับคุณภาพค่ะ คือใบละ 5$ สำหรับกระเป๋าสตางค์ และ15$สำหรับกระเป๋าสะพาย
ซื้อเมืองไทยก็ได้ราคาประมาณนี้อยู่แล้ว
ไม่ซีเรียสมากเพราะเราไม่ติดกับยี่ห้อ หรือว่าของแท้ ของเทียม
เราใช้ได้เหมือนกัน เก็บเงินไว้ผ่อนบ้านดีกว่า
ไฟลท์ขากลับเรานอนพักกินบินซะเต็มอิ่มเลยไม่เหนื่อยมาก
ที่แย่คือมีพวกขายแรงงานชาวเวียดนามมากันเป็นกรุ๊ปเลย
พวกนี้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาเกาหลีก็ไม่สันทัด
เราเสิร์ฟลำบาก แต่ไม่แย่เท่ากับการกรอกเอกสารเข้าเมืองซึ่งวุ่นวายยังกับจับปูใส่กระด้ง
เราสงสัยเหลือเกินว่าลงไปเขาจะทำยังไงต่อไป เนื่องจากเราช่วยเขาเขียนไปแค่บางคน
แต่ถ้าจะให้เราเขียนทั้งหมดก็คงไม่ไหว
เพราะผู้โดยสารทั้งโซนประมาณ120กว่าคน เป็นพวกนี้เกือบทั้งหมด
วันหลังถ้ามีเวลาเราจะเล่าเรื่องของแรงงานที่เข้ามาทำงานในเกาหลีอีกครั้ง
แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้สะดวกสบายแบบที่ใครๆคิดกันเลย
หลังจากหมดไฟลท์และได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่มแล้ว
ลุกขึ้นมากินข้าวกับเพื่อน ได้ออกไปถ่ายรูปกับหิมะด้วย
คิดว่าคงเป็นหิมะระลอกสุดท้ายของปีนี้
เมื่อเช้าตอนเครื่องลง หิมะตกลงมาเป็นสาย
เห็นไกลๆก็สวยดี แต่พอเห็นใกล้ๆแล้วสกปรกน่าดู
เห็นรูปตัวเองแล้วเศร้าใจค่ะ
คนอะไรไม่รู้ อ้วนจังเลย T_T
พรุ่งนี้กลับเมืองไทยแล้ว ดีใจจัง

รูปนี้ถ่ายนานแล้ว ตั้งแต่สมัยเห็นหิมะแรกของเกาหลีค่ะ
ตอนนั้นยังเป็นเด็กกะโปโลอยู่เลย ^^'
No comments:
Post a Comment