Friday, March 24, 2006

พาน้องเที่ยวเกาหลี ตอนที่ 1

ทำงานกับสายการบินเกาหลีมาสองปี มีคนถามเยอะแยะว่าเคยพาพ่อแม่ไปเที่ยวเกาหลีบ้างไหม คำตอบก็คือไม่เคยเลยค่ะ เพราะถึงแม้ว่าฉันจะได้สวัสดิการตั๋วฟรีปีละครั้ง ตั๋วลดราคาตามข้อตกลงของสายการบินอีกไม่จำกัดจำนวน แต่เวลาเดินทางจริง ตั๋วทั้งหมดจะเป็นตั๋ว Stand-by นั่นหมายความว่า ยังไงก็ต้องให้ลูกค้าของสายการบินไปก่อนอยู่แล้ว พวกตั๋วพนักงานประเภทต่างๆต้องรอไปก่อน ไม่ค่อยได้ไปไหนกับเขา นอกจากนี้เวลาเดินทางเขาให้เราแต่ตั๋ว เราต้องหาที่พัก และวางแผนเที่ยวเอง ฉันไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาตกระกำลำบากกับทัวร์ไม่รู้อนาคตแบบฉัน ฉันเลยสมัครใจให้แม่ไปเที่ยวกับทัวร์ราชภัฏ ซึ่งจัดอยู่เป็นประจำ ให้แม่ไปกับบรรดาอาจารย์ผองเพื่อนของแม่จะดีกว่า อีกประการหนึ่ง อันนี้สำคัญที่สุดค่ะ คือตอนนี้บ้านเรายังจนอยู่ !!! สู้เก็บสตางค์ไว้ผ่อนบ้าน ผ่อนที่ และสินทรัพย์ประดามีที่แม่ซื้อไว้จะดีกว่า แม่บอกว่าแม่เที่ยวกับสถาบันปีละหนก็พอแล้ว ไม่ได้อยากไปไหนไกลกว่านี้เลย

เอาก็เอา ! แม่ไม่อยากไปไหนก็ตามใจแม่

Image hosting by Photobucket

มาปีนี้แม่ใจดีเพราะแม่เพิ่งขายบ้านได้สองหลัง พร้อมๆกับพ่อได้สตางค์เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ที่รับผิดชอบอยู่ ประกอบกับฉันเพิ่งแลกไฟลท์บินกับลูกหมีเพื่อนรักได้สำเร็จ ฉันจะได้มีแพทเทิร์นบิน BKK-ICN-DAFF-BKK รวมแล้วอยู่เกาหลีสองวันครึ่ง ทำงาน on duty ค่าที่พักไม่ต้องเสีย แถมรับผิดชอบไฟลท์ทั้งขาไป และขากลับ ไม่ต้องไปบินต่อที่ประเทศไหน ฤกษ์งามยามเหมาะขนาดนี้ ฉันเลยเสนอโครงการพาน้องไปเที่ยวเกาหลี เนื่องจากตอนนี้มันบ้าแดจังกึมเหลือเกิน พาไปเที่ยวซะให้หายอยาก เจ้าน้องสาวคนนี้มันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกล นอกจากโรงเรียน บ้าน และหอที่นครนายก แม่เลยห่วงเป็นพิเศษ คราวนี้มีพี่ที่แสนโฉดอย่างฉันพาไปเอง แม่เลยวางใจให้ไป ไม่ต้องกลัวใครจะมาหลอกน้องไปขาย แอบน้อยใจเล็กๆเหมือนกันว่าทำไมเวลาฉันไปบินร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แม่ไม่เห็นห่วงขนาดนี้เลย

Image hosting by Photobucket

เจ้าเพื่อนท่าทางตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ขึ้นเครื่องบินมาต่างประเทศหนแรก เห็นนั่งมองริมหน้าต่างอย่างตื่นเต้น ไอ้ฉันมันนั่งเครื่องบินจนเบื่อ เลยลืมความรู้สึกแบบนี้ไปแล้ว ก่อนเข้าเมือง น้องเพื่อนมีปัญหานิดหน่อยเพราะด่านตรวจที่เกาหลีมันสงสัยว่ามาทำอะไรที่เกาหลีคนเดียว โชคดีทีได้ผู้จัดการไฟลท์แสนประเสริเฐ (ตาปาร์ค ชอง ฮัก) ช่วยเหลือ และมีฉันเป็นผู้รับผิดชอบการเดินทางมาครั้งนี้ น้องสาวเลยรอดตัวไป หลังจากที่พาน้องฝ่าด่านตม.แสนหฤโหดอันเลื่องชื่อของเกาหลี ฉันก็พาน้องมาเก็บขอที่โรงแรม และพาออกตะลุยแดนโสมกันเลย

Image hosting by Photobucket
เริ่มมื้อแรกของวันที่ picnic areaค่ะ ซื้อของกินจากร้านสะดวกซื้อใส่เป้มากิน ทางสวนสนุกจักบริเวณไว้ให้เรารับประทานอาหารกันได้ตามสะดวก

วันแรกเราเลือกไปเที่ยวเอเวอร์แลนด์ สวนสนุกขนาดใหญ่ยักษ์ของเกาหลี ตั้งอยู่ที่เมืองซูวอน ภายในนอกจากจะมีสวนสนุกแล้ว ยังมีสวนสัตว์ สวนน้ำ ทั้งสระน้ำอุ่น และสระน้ำเย็น มีลานสกี รีสอร์ท และบริการต่างๆให้มาเที่ยวชม ถ้าจะเที่ยวให้ทั่วจริงๆ ฉันคิดว่าสามวันก็เที่ยวไม่หมด ฉันเลยเลือกที่จะเดินเที่ยวแค่บริเวณ สวนสัตว์ และสวนสนุกเท่านั้น แค่นี้ก็ปาเข้าไปหมดวันซะแล้ว
Image hosting by Photobucket Image hosting by Photobucket



Image hosting by Photobucket
บริเวณสวนสัตว์ค่ะ ที่จริงมีสัตว์มากมายหลายชนิด แต่ไม่ได้เอารูปมาลงเพราะเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย

Image hosting by Photobucket

Image hosting by Photobucket
น้องเพื่อนกับไอศครีมรสบลู ฮาวาย โคโคนัท แสนอร่อย แต่ฉันแอบแซวว่าเหมือนกะทิบูด
ไม่เข้าใจว่าอากาศหนาวขนาดนี้ แต่ทนกินไอศครีมอยู่ได้ยังไง

Image hosting by Photobucket
ภาพสวยๆ บรรยากาศแบบฤดูใบไม้ร่วงค่ะ เบื้องหลังของภาพคือมีคู่รักหนุ่มสาวชาวเกาหลียืนโปรยกระดาษรูปดอกไม้ให้ข้างๆ

Image hosting by Photobucket

Image hosting by Photobucket

Image hosting by Photobucket
บริเวณหมู้บ้านนิทานอีสป และยูโร เฟสติวัลค่ะ สวยจริงๆ

ข้อดีของการเลือกที่จะมาเที่ยวเอง คือเราสามารถเลือกที่จะเที่ยว หรือไม่เที่ยวที่ไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ เราเลือกที่จะเที่ยวนานๆในที่ที่เราชอบ และเลือกที่จะกินอาหารแบบที่เราต้องการได้ ข้อเสียคือเราต้องยอมสละความสะดวกสบายโดยเฉพาะในเรื่องของการเดินทาง จำเป็นต้องขึ้นรถ ลงเรือ พึ่งพา public transportation แต่ถ้าทำใจกับตรงนี้ได้ เราก็สามารถเที่ยวแบบแบ็คแพ็คได้อย่างสนุกสนาน และสบายใจค่ะ

Image hosting by Photobucket

Image hosting by Photobucket
ตบท้ายมื้อเย็นด้วยหมูย่างเกาหลีแบบของแท้และดั้งเดิม เครื่องเคราครบถ้วน น่ากินค่ะ แต่น้องเพื่อนบอกว่ารสชาติไม่ไหวเลยจริงๆ
คงเป็นเพราะมาต่างประเทศใหม่ๆ ลิ้นเลยยังไม่คุ้นเคยกับอาหารแปลกๆ เลยทนกับอาหารเกาหลีไม่ค่อยได้

No comments:

Post a Comment