Thursday, May 18, 2006

ซิดนี่ย์ที่รัก (ต่อ)

Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting

เช้าวันรุ่งขึ้นฉันเดินไปกินแพนเค้กอีกแล้วค่ะ คราวนี้สั่ง Strawberry Patch แพนเค้กราดซอสสตรอเบอรรี่ และสตรอเบอรี่สดชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมครีมสดและไอศครีม อร่อยลืมอ้วนไปเลย ก่อนกลับเดินกินลมชมวิวสักเล็กน้อยเป็นการย่อยอาหาร Circular Quay ยามเช้าบรรยากาศดีจริงๆ แสงแดดอ่อนๆกับลมพัดเย็น ทำให้นึกไปว่าอยากมีใครสักคนมาเดินตรงนี้เป็นเพื่อนคงจะดีไม่น้อย ซิดนี่ย์เป็นเมืองที่สวย น่าอยู่แต่ะไม่เหมาะจะมาเที่ยวคนเดียว เพราะโรแมนติกเกินห้ามใจ

บรรยากาศที่ Circular Quay ยามเช้า
Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting

พออากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อยก็ได้เวลาเดินชมเมือง ไม่ได้มาซิดนี่ย์เสียนาน เดินไปทางไหนก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ คิดถึงที่นี่อยู่ไม่น้อย ตึก QVB (Queen Victoria Building) ก็ยังมีคนเดินกันหนาแน่นเหมือนเดิม แวะไป โรงหนังเสียหน่อยจะได้ขอแฮนด์บิลกลับไปฝากพี่ไก่ ชาวAou Station


Photobucket - Video and Image Hosting
ตึก QVB สวยเด่นเป็นสง่าหน้าตึกคือ สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย

มองขึ้นไปบนยอดตึกแถวเซ็นเตอร์ พ้อยท์ มองเห็นยอดซิดนี่ย์ทาวเวอร์อยู่ลิบๆเลยตัดสินใจ ขึ้นไปเที่ยวสักหน่อยดีกว่า อันที่จริงฉันเคยขึ้นยอดซิดนี่ย์ ทาวเวอร์มาแล้วครั้งหนึ่ง สมัยเริ่มบินใหม่ๆแต่ขึ้นไปตอนค่ำๆ เลยเห็นวิวซิดนี่ย์ตอนกลางคืน คราวนี้กลางวันว่าจะส่องดูวิวให้สมใจ


Photobucket - Video and Image Hosting
มองจากด้านล่างขึ้นไปค่ะ จะเห็นยอดหอคอยอยู่ลิบๆ

Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting
Display ที่จัดอยู่ด้านหน้าบูทขายตั๋ว

Photobucket - Video and Image Hosting
ทัวร์เดินตามขอบหอคอยค่ะ เอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวชอบผจญภัย น่าหวาดเสียวแทน

รูปด้านล่างเป็นทางขึ้นลิฟท์ไปสู่ยอดหอคอยค่ะ มีคนรอคิวอยู่ประปราย
Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting

เกร็ดความรู้เล็กๆเกี่ยวกับซิดนี่ย์ ทาวเวอร์ (ได้มาจากแผ่นพับที่เขาแจก)

- เซ็นเตอร์ พ้อยท์ หรือ Center Point ประมาณช่วงปลายทศวรรษที่ 70’s ร้านค้ารุ่นแรกจำนวน 52 ร้าน เปิดจำหน่ายสินค้าประมาณปี 1972 และส่วนของสำนักงานทั้งหมดสร้างเสร็จสิ้นในปี 1974 ส่วนของหอคอยเมืองซิดนี่ย์หรือ Sydney Tower สร้างเสร็จในเดือน สิงหาคมปี 1981 ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในบรรดาตึกที่สูงที่สุดในโลก ตัวอาคารได้รับการออกเป็นให้ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศตลอดจนสภาวะแผ่นดินไหวได้เป็นอย่างดี

- สายเคเบิลที่ขึงรอบตัวอาคารมีจำนวนทั้งสิ้น 56 เส้น หากวางต่อกันเป็นเส้นตรงจะมีระยะทางเทียบเท่ากับเส้นทางจากเมืองSydney ไปถึงเมือง Alice Spring หรือจากประเทศออสเตรเลียไปจนถึงประเทศนิวซีแลนด์

- ส่วนของหอคอยได้รับการออกแบบให้รับน้ำหนักคนได้ถึง 960 คนประกอบด้วยภัตตาคาร 2 ชั้น ร้านกาแฟ และบริเวณสังเกตการณ์ รวมไปถึงเสาส่งสัญญาณต่างๆอีกด้วย

- มีลิฟท์ความเร็วสูงไว้คอบอำนวยความสะดวกแก่ผู้เยี่ยมชมจำนวนถึง 3 ตัว ใช้เวลาให้การขึ้นสู่ยอดหอคอยเป็นเวลาประมาณ 40 วินาทีเท่านั้น

- รอบหอคอยมีหน้าต่างทั้งสิน 420 บาน มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติโดยใช้การหมุนเวียนโดยรอบ ใช้น้ำประมาณ 50 ลิตรในการหมุนเวียนทำความสะอาดต่อหนึ่งครั้งและใช้เวลาถึง 2 วันในการหมุนเวียนทำความสะอาดหน้าต่างดังกล่าว


จากรูปหอคอย


Photobucket - Video and Image Hosting
1.ส่วนยอดแหลมของตึก สูงประมาณ 305 เมตรจากระดับถนน เป็นเครื่องส่งสัญญาณขนาดใหญ่
2.Plant room มีระบบทำความสะอาดกระจกอัตโนมัติ
3.หอสังเกตการณ์ที่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าชมโดยเสียค่าเข้าชมครั้งละประมาณ 25 $
4.Coffee Lounge
5.ภัตตาคารบุฟเฟต์
6.ภัตตาคารขายอาหารจานเดียว
7.ลิฟท์ 3 ตัวที่ใช้ขึ้นสู่ยอดหอคอย รวมทั้งบันไดหนีไฟติดตั้งระบบปรับความกดอากาศ มีสายเคเบิลจำนวน 56 เส้นช่วยพยุงน้ำหนัก
8.ศูนย์การค้า

น้ำหนักของหอคอยทั้งสิ้นประมาณ 5,683 ตัน !!!

อ้อ ! ลืมบอกไปว่า เป็นลูกเรือของสายการบินใดก็ตาม หากแสดง Crew ID จะสามารถขึ้นชม Sydney Tower ได้ฟรี ประหยัดเงินไปได้ตั้ง 24 AUD $ แน่ะ



Photobucket - Video and Image Hosting ขึ้นมาสูงขนาดนี้เลย

Photobucket - Video and Image Hosting Harbour Bridge จากมุมด้านบน

Photobucket - Video and Image Hosting ท่าเรือสุดที่รัก (Darling Harbour)

Photobucket - Video and Image Hosting

ขอถ่ายรูปตัวเองบ้าง

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ลงมาจากSydney Tower แวะซื้อของนิดหน่อยแล้วจึงเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึง Circular Quay อากาศตอนบ่ายกำลังอุ่นสบาย ริมข้างทางมีนักดนตรีและนักแสดงศิลปะอยู่ประปราย บ้างก็เปิดหมวกให้คนโยนสตางค์เป็นค่าตอบแทน เดินไปจนถึง Opera Housr เลยได้เก็บรูปมาฝากกัน


Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting

เครื่องเป่าที่ชาวอบอริจิ้นเป่าอยู่นี้เรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบค่ะ แต่เสียงมันอู่อี่เหลือทน เคยเห็นเครื่องที่ว่าวางขายตามร้านของที่ระลึก แต่ก็ไม่เคยนึกพิเรนทร์จะหอบกลับมาบ้านสักที


Photobucket - Video and Image Hosting


Photobucket - Video and Image Hosting Photobucket - Video and Image Hosting

มาเยือนกี่ครั้ง ไม่เคยมีครั้งใดที่บ้านละครร้องหลังนี้ว่างเว้นไปจากการเยี่ยมเยือนของนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ส่วนมากก็เป็นชาวเอเชียอย่างเราๆท่านๆนี่แหละ บรรยากาศเมืองซิดนี่ย์สวยสดใสเกินกว่าจะมาเดินเที่ยวตามลำพังคนเดียว

คิดถึงทุกๆคนที่เมืองไทยจัง

Photobucket - Video and Image Hosting



ขากลับไฟลท์ไม่เต็มเหมือนขามา ผู้โดยสารแค่ 144 คนเท่านั้นเอง แอร์เลยทำงานกันสบาย สนุกด้วยเพราะคุยถูกคอกับรุ่นพี่บล 1 จำรูปข้างบนได้ไหมคะ รุ่นพี่คนสวยคนนั้นแหละเล่าให้ฟังว่า พอไปถึงซิดนี่ย์ เธอบินไปเจอเพื่อนอีก 2 คน ทั้ง 2 คนเคยบินกับฉันแล้ว ชมเปาะทุกคนว่าฉันเป็นลูกเรือที่แสนจะใจดี โดยเฉพาะกับรุ่นน้อง(ไม่เคยคิดเลยว่ารุ่นพี่ๆพวกนี้เขาจะซาบซึ้งกับความใจดีที่เราช่วยรุ่นน้องทำงาน) ชมกันมาๆแทบลอย เลยยิ่งตั้งใจทำงาน ไม่อยากให้เสียชื่อค่ะ


วันนี้เจอผู้โดยสารคนนึงบนไฟลท์ เป็นน้องเด็กหน้าตาหมดจด อายุประมาณ 10 ขวบเห็นจะได้ เธอมีอาการเมาเครื่องบินอย่างรุนแรง อาเจียนตั้งแต่เครื่องขึ้นยันเครื่องลง รับประทานอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด น่าสงสารค่ะ เดินผ่านไปทีไรก็สบตาละห้อยร้องว่า พี่จ๋าหนูหิว แต่พอเอาอะไรให้กิน เธอก็ปล่อยออกมาหมด คิดดูสิคะว่าFLT time ตั้ง 10ชั่วโมง น้องเด็กจะทรมานขนาดไหน ขนาดเครื่องจอด ผู้โดยสารคนอื่นลงไปหมดน้องเด็กก็ยังอาเจียนหน้าเซียวอยู่ตรงนั้นเอง ได้แต่ภาวนาให้เธอรีบไปหาหมอเร็วๆ เผื่อเป็นอะไรขึ้นมาจะได้รักษากันทัน


ช่วงพักฉันนอนหลับเป็นตาย ขนาดมีเสียงโทรมาปลุกยังไม่ได้ยินเลย เป็นครั้งแรกที่นอนพักบนไฟลท์แล้วต้องมีรุ่นพี่ปลุกให้ตื่น ปรกติตื่นก่อนชาวบ้านเขาตลอด


จบไฟลท์ซิดนี่ย์แต่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจจัง

No comments:

Post a Comment